ดูหนังออนไลน์ หนังตลก หนังจีน หนังฝรั่ง การ์ตูนอนิเมชั่น หนังแอคชั่น หนังบู๊มันๆ, หนังดราม่า, หนังโรแมนติก, หนังสยองขวัญ หนังผี, หนังเกาหลี ดูซีรี่ย์, หนังสืบสวนสอบสวน, หนังซุเปอร์ฮีโร่ MARVEL DC, หนังภาคต่อ หนังดังทั้งไทย เอเชีย และต่างประเทศ ด้วยความคมชัดระดับ HD ตั้งแต่ 360px, 480px, 720px และ 1080px ไปจนถึงความคมชัด 4K หรือ Ultra HD ดูหนังผ่านโทรศัพท์มือถือ Android , iPhone , iPad ดูหนังออนไลน์ เราก็มีให้ครบในเว็บไซต์ของเรา
เรื่องยาวโดยย่อ ของ Trese เตรเซ ฆาตรเงา
ถ้าเจองานเหนือธรรมชาติเมื่อไหร่ ตำรวจเรียกหา อเล็กซานดรา เตรเซ ได้ทันที ด้วยฉากหลังในกรุงมะนิลาจะพาคุณไปพบกับตำนานสยองขวัญฉบับฟิลิปปินส์อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
เนื้อหาของ ‘Trese’ ว่าด้วย อเล็กซานดรา เตรเซ หญิงสาวทายาทของ ลาคาน หรือผู้ควบคุมสมดุลระหว่างมนุษย์ ปีศาจ ภูติ ผี และเทพ ที่อยู่ร่วมกันบนโลกมนุษย์ หลังจากพ่อของเธอที่เป็นลาคานคนก่อนเสียชีวิต เธอจึงต้องรับหน้าที่นี้แทน และนั่นก็ทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับปัญหาระดับโลกที่กำลังก่อตัว เมื่อมีความพยายามจากเงามืดลึกลับที่จะทำลายข้อตกลงสันติภาพระหว่างมนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย
‘Trese’ เป็นผลงานที่มีความคิดที่ดีมาตั้งแต่ต้น
เมื่อดูซีรีส์จริงต้องบอกว่าเกินความคาดหมายไปหลายอย่าง และทำให้เกิดอารมณ์สองอย่างที่คู่กันไประหว่างดู คืออดชื่นชมในความพิถีพิถันทางความคิดของชาวฟิลิปปินส์ที่ถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาไม่ได้
‘Trese’ เป็นผลงานที่ได้ต้นเรื่องความคิดที่ดีมาตั้งแต่ต้น เพราะดัดแปลงจาก komik ที่เป็นชื่อเฉพาะของคอมิกจากฟิลิปปินส์ที่ได้รางวัลหนังสือระดับชาติมาหลายปี จากผลงานการแต่งเรื่องของ บัดเจต แทน (Budjette Tan) และวาดโดย คาโจ บัลดิซิโม (Kajo Baldisimo) จนมากลายเป็นผลงานแอนิเมชันสไตล์ตะวันตกด้วยฝีมือการปรุงของ เจย์ โอลิวา (Jay Oliva) ผู้กำกับเชื้อชาติฟิลิปปินส์-อเมริกัน ที่มีผลงานเบื้องหลังในส่วนงานศิลป์ของแอนิเมชันดังหลายเรื่องทั้งฝั่งค่ายมาร์เวลและค่ายดีซี รวมถึงเคยมีผลงานกำกับแอนิเมชันในซีรีส์ ‘Batman’ มาหลายเรื่อง เรียกว่าการรันตีฝีมือไม่ไก่กาแน่นอน
ด้วยจำนวน 6 ตอนของซีรีส์ ก็ใช้ไปอย่างคุ้มค่า เพราะแม้จะเหมือนการสืบแก้ไขคดีสไตล์ฟิล์มนัวร์ที่แตกต่างกันไปแล้วจบในตอน ทั้งคดีฆาตกรรมปริศนาทั่วเมือง นักซิ่งที่ถูกเทพลักพา คนดังที่ถูกวิญญาณตามฆ่า หรือสำนักงานตำรวจที่ถูกซอมบี้คลั่งแค้นล้อมบุก ทว่าในทุก ๆ ตอนที่ดำเนินไปกลับมีคำใบ้ที่คอยเชื่อมโยงเรื่องราวปัญหาใหญ่ที่กำลังก่อตัวซึ่งถูกอ้างอิงเสมอว่าเป็น พายุที่กำลังใกล้เข้ามา ได้อย่างน่าติดตาม และเมื่อจบทั้ง 6 ตอนซีรีส์ก็ตอบทุกสิ่งที่ทิ้งรายละเอียดไว้ระหว่างทางได้อย่างลงตัวดีทีเดียว
แม้ดูแล้วตัวแอนิเมชันจะชวนให้นึกถึงคอมิกดังอย่าง ‘Doctor Strange’ ของฝั่งมาร์เวล และ ‘Constantine’ ของฝั่งดีซี อยู่เหมือนกัน ทว่าตัวซีรีส์ก็ใช้เอกลักษณ์แบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะตำนานฉบับฟิลิปปินส์มาทำให้รสชาติแตกต่างจนโดดเด่นขึ้นมาได้ ไม่ว่ารูปแบบของภูติผี ปีศาจ เทพ ตลอดจนความเชื่อผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์ ลัทธิพื้นเมือง และพิธีคุณไสยมนต์ดำ ทว่าก็ผสมกับฉากหลังที่เป็นโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัวดูเป็นสากลไม่หนักความเป็นฟิลิปปินส์จนคนต่างวัฒนธรรมเสพยาก เป็นจุดที่น่าเรียนรู้สำหรับผลงานที่อยากขายความเป็นไทยเหมือนกัน
การดีไซน์สมจริง จนโลกของเตรเซนั้นดูละเอียด
สิ่งที่ชื่นชมมาก ๆ การดีไซน์ที่คิดไตร่ตรองมาดีมาก จนโลกของเตรเซนั้นดูละเอียด สมจริง และที่สำคัญตื่นตาตื่นใจคนต่างวัฒนธรรมได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเทพแห่งสายฟ้าที่อยู่ปะปนกับมนุษย์ในตำแหน่งผู้บริหารการไฟฟ้ามะนิลา มนุษย์ลมที่ชื่นชอบการแข่งรถ ปีศาจขายข่าวสารที่มุดซอกซอนไปตามท่อระบายน้ำของเมืองและมีหัวติดกับฝาท่ออย่างกลมกลืน
ไม่ใช่เพียงดีไซน์รูปลักษณ์ที่เข้ากับพลังและบุคลิก แต่การดีไซน์ปฏิสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครก็ยังมีความน่าสนใจไม่น้อย เช่นแก๊งนางเอกที่จะมีฝาแฝดอมนุษย์ใบหน้ายิ้มกับใบหน้าเศร้าคอยติดตาม ก็ใส่เรื่องความเป็นครอบครัวมาอย่างมีมิติ เป็นต้น คือพวกนี้มันเกินกว่าพลอตดีน่าติดตามแล้ว เพราะมันคือบทดีที่ทำให้รู้สึกเชื่อในโลกที่ไม่มีอยู่จริงได้ ซึ่งบทหนังทุกเรื่องควรทำให้ได้ก่อนจะไปคาดหวังเรื่องความดีเลิศในด้านอื่น
นอกจากนั้นแอนิเมชันนี้ก็จับกลุ่มเด็กโตชัดเจน ทำให้งานภาพเน้นความรุนแรงได้อย่างสะใจ ทั้งฉากการต่อสู้ ซากชิ้นส่วนร่างกายขาดแหว่ง เหวอะหวะ เลือดสาด ไม่เพียงเท่านั้นตัวซีรีส์ยังเล่าเรื่องที่เกี่ยวพันกับอาชีพคนมีสีและคนมีตำแหน่งสูงอย่างพวกนักการเมืองที่เกี่ยวพันกับปัญหาภาพใหญ่ได้อย่างน่าสนใจดีด้วย และข้อดีของการเน้นเด็กโตไปเลยก็คือวิธีการเล่าเรื่องสามารถมีความซับซ้อนได้มากขึ้น อย่างการที่ปะหัวแต่ละตอนด้วยเหตุการณ์ในอดีตที่จะค่อย ๆ เข้าใจในภายหลัง หรือการใช้ศัพท์เฉพาะที่เป็นภาษาตากาล็อกเรียกชื่ออมนุษย์ต่าง ๆ แบบไม่ต้องอธิบาย ก็จะสามารถทำได้ก็เพราะเด็กโตจะปรับตัวรับได้ง่ายกว่าเด็กเล็กนั่นเอง ซีรีส์เลยขายทั้งความเป็นสากลและขายวัฒนธรรมได้พร้อมกันแบบไม่ต้องกั๊กเลย
แม้จะชื่นชมอยู่หลายอย่าง และมองข้ามความไม่นิยมส่วนตัวต่อสไตล์แอนิเมชันฝรั่งไปได้ เป็นแอนิเมชันที่รู้สึกภูมิใจแทนเพื่อนร่วมโซนอย่างคนฟิลิปปินส์แทนเลย ใครที่กำลังอนิเมชั่นแนวแฟนตาซีก็ไม่ควรที่จะพลาดเรื่องนี้ไปด้วยประการทั้งปวง